วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554
วิธีลดความอ้วนที่ได้ผลเร็วที่สุด ภายใน 42 วัน
วิธีลดความอ้วนที่ได้ผลเร็วที่สุด ภายใน 42 วัน สู้ ๆ ๆ ๆ
1. 7 วัน (แห่งการต่อสู้)
สัปดาห์แรกถือว่าเป็นสัปดาห์ที่หินมาก ๆ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นลดน้ำหนัก เพราะคุณจะรู้สึกหิวอยู่ตลอดเวลาเห็นอะไรก็เผลอที่จะหยิบใส่ปากไม่ได้
- วิธีที่ดีที่สุดในการหยุดพฤติกรรมอันน่าเสี่ยงนี้ก็คือ ให้มุ่งความสนใจไปที่มื้อเช้าโดยพยายามกินมื้อเช้าให้เยอะเข้าไว้ เพราะนอกจากจะทำให้ท้องอิ่มได้นานแล้วยังช่วยให้แคลอรี่กับร่างกายไปใช้อีกตั้ง 350 แคลอรี่เชียวแน่ะ
2. 14 วัน (แห่งการหงุดหงิด)
ระยะนี้คุณจะรู้สึกหงุดหงิดเป็นพิเศษไม่ว่าจะขยับตัวไปทำอะไรก็พานจะอารมณ์บ่จอยไปซะหมด ทั้งนี้เนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารของคุณ จากที่เคยกินอย่างพระราชากลับกลายเป็นว่า ไอ้นั่นก็แตะไม่ได้ ไอ้นี่ก็แคลอรี่เยอะ จึงทำให้เกิดความเครียดและความกดดันตามมาจนคุณอาจรู้สึกหมดกำลังใจถึงขั้นหันหลังให้กับการไดเอ็ทไปตลอดชีวิตก็เป็นได้
- วิธีที่จะรับมือกับพายุอารมณ์ในช่วงนี้ก็คือ ให้เบี่ยงเบนความสนใจด้วยการหันหน้าเข้าหาเพื่อน ๆ พูดคุยปรึกษากันซะหน่อย ไม่แน่นะคุณอาจจะปิ๊งไอเดียเจ๋ง ๆ ที่จะนำมาใช้ในการลดน้ำหนักต่อไปก็ได้
3. 21 วัน (แห่งความอยาก)
ช่วงนี้คุณจะรู้สึกอยากกินอาหารมากขึ้นเพราะอยู่ในช่วงที่มีประจำเดือนพอดีเห็นอะไรก็อยากไปซะหมด
- วิธีแก้ก็คือ ลองเปลี่ยนจากกินอาหารวันละ 3 มื้อ (เช้า กลางวัน เย็น) ไปเป็นแบ่งกินเป็นมื้อย่อย ๆ ประมาณ 4-6 มื้อดูสิคะ วิธีนี้จะช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่ สามารถขจัดความเหนื่อยล้าและช่วยทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นด้วยค่ะ
4. ครบ 42 วัน น้ำหนักยังไม่ลด
หลังจาก 6 สัปดาห์ผ่านไปคุณจะรู้สึกว่าร่างกายเฟิร์มมากขึ้นมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น แต่ทำไม๊ ทำไม น้ำหนักยังไม่ลดลงซักที
- ขอบอกว่าที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะปกติกล้ามเนื้อจะมีน้ำหนักมากกว่าไขมันอยู่แล้ว เพราะ 70% ของกล้ามเนื้อเป็นน้ำในขณะที่ไขมันมีน้ำแค่ 20% เท่านั้นเอง ฉะนั้นอย่าเพิ่งด่วนถอดใจไปซะก่อนค่ะให้คอนตินิวลดน้ำหนักอย่างนี้ต่อไปแหล่ะ และท่องเอาไว้ว่า ยิ่งมีกล้ามเนื้อมากก็ยิ่งเผาผลาญแคลอรี่ได้มาก แต่ถ้าคุณเกิดหมดแรงฮึดขึ้นมาจริง ๆ ให้นำยีนส์ตัวเก่งที่เคยใส่ไม่ได้แล้วมาลองสวมดูสิคะหรืออาจจะส่องกระจกสำรวจดูตัวเองว่าไขมันตรงไหนลดไปบ้าง อาจจะช่วยเรียกกำลังใจกลับคืนมาได้นะ
เอ้า...ได้เคล็ดลับดี ๆ ไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปใช้กันนะคะ จะได้อวดหุ่นสวยให้ใคร ๆ ได้เห็นเร็ว ๆ ไงล่ะ
อันตรายจากกลูต้าไธโอน "ของผิวขาว"
อันตรายจากกลูต้าไธโอน "ของผิวขาว"
เมื่อพูดถึงกลูต้ไธโอนในวงการผู้หญิงอยากขาวคงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักเจ้าสารกลูต้าไธโอนชนิดนี้ แต่คุณรู้บ้างไหมว่าอันตรายจากกลูต้าไธโอนนั้นมีอะไรบ้างมีผลข้างเขียงอย่างไรบ้าง หากว่าคุณคิดอยากจะมีผิวขาวสวยอมชมพูก็ต้องคิดกันสักนิดเพราะสิ่งเหล่านี้ไม่อยู่ยั่งยืนคู่กับคุณไปจนแก่ นั้นมาดูอันตรายจากกลูต้าไธโอนและประโยชน์ของกลูต้าไธโอนกันค่ะอันตรายจากกลูต้าไธโอน
สารกลูต้าไธโอนเป็นโปรตีนที่ร่างกายเราสังเคราะห์ได้เองทำหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อของอวัยวะทุกส่วน โดยการต่อต้านอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายช่วยตับขจัดสารพิษ โดยเฉพาะตัวยาหรือสารพิษที่ไม่ละลายน้ำ เช่น โลหะหนัก สารฆ่าแมลง เมื่อรวมตัวกับสารกลูต้าไธโอนจะช่วยให้ละลายน้ำได้และถูกกำจัดออกจากร่างกายช่วยปกป้องดีเอ็นเอของเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายซึ่งเป็นการป้องกันการเกิดมะเร็งนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่า ผู้ที่อายุยืนยาวและมีสุขภาพแข็งแรงมักจะตรวจพบสารกลูต้าไธโอนปริมาณสูงในกระแสเลือด ต่อมาวงการแพทย์ได้นำสารกลูต้าไธโอนมาใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบเส้นประสาทบกพร่อง เช่น โรคตับ โรคไต พาร์กินสัน อัลไซเมอร์หรือโรคสมองเสื่อม โรคปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็งกระเพาะ และมะเร็งต่อมลูกหมาก มานานกว่า 30 ปี โดยฉีดเข้าเส้นเลือดหรือกล้ามเนื้อ
เนื่องจากร่างกายเราสร้างกลูต้าไธโอนได้เองเมื่อต้องเสริมกลูต้าไธโอนในปริมาณมากเพื่อมุ่งรักษาโรค จึงมีผลข้างเคียงโดยกลูต้าไธโอนมีฤทธิ์ไปยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสซึ่งทำให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาวทำให้ผิวขาวขึ้นในเวลาอันสั้น จึงเกิดการแตกตื่นและนำกลูต้าไธโอนมาเป็นอาหารเสริมเพื่อชะลอวัย และหวังผลให้ผิวขาวใสหรือผิวขาวอมชมพู
กิน-ฉีดให้ขาว อันตรายถึงชีวิต
ในความเป็นจริงยาเม็ดที่เป็นอาหารเสริมไม่มีผลให้ผิวขาว เพราะสารชนิดนี้ไม่สามารถดูดซึมและจะถูกขจัดออกจากร่างกายในที่สุด จึงได้มีการดัดแปลงนำมาผสมกับวิตามินซีแล้วฉีดเข้าเส้นเลือดหรือกล้ามเนื้อครั้งละ 600 มิลลิลิตร สัปดาห์ละครั้ง ราคา 4,000-5,000 บาท ติดต่อกัน 3-5 สัปดาห์ ผิวจะเริ่มขาวขึ้นหลังฉีดครั้งแรกประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้น 2 เดือนผิวจะกลับมาเป็นสีเดิมจึงต้องฉีดซ้ำอยู่เป็นระยะ
ต่อมาองค์การอาหารและยาได้ประกาศห้ามใช้กลูต้าไธโอนเพื่อช่วยผิวขาวแล้ว เนื่องจากกลูต้าไธโอนทั้งชนิดเม็ดและชนิดฉีดเพื่อมุ่งผิวขาวมีกลูต้าไธโอนสูงถึง 500-1,000 มิลลิกรัม ซึ่งมากกว่าปริมาณที่แพทย์อนุญาตให้ผู้ป่วยใช้ คือ ไม่เกิน 250 มิลลิกรัมต่อวันและอาจทำให้แพ้ยาจนช็อกถึงขึ้นเสียชีวิตเฉียบพลันหรือส่งผลในระยะยาว เช่น สะสมในร่างกายส่งผลเสียต่อตับและไตได้ และทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังเนื่องจากผิวไวต่อแสงแดดเพราะเม็ดสีผิวถูกทำลายเสริมกลูต้าไธโอนด้วยการกิน
แม้การบริโภคกลูต้าไธโอนในปริมาณมากจะส่งผลเสียต่อร่างกาย แต่เมื่ออายุมากขึ้นหรือมีโรคแทรกซ้อนอาจทำให้ปริมาณกลูต้าไธโอนที่ร่างกายผลิตได้ลดลงทำให้ร่างกายขาดสารต้านอนุมูลอิสระ ผิวแห้งเหี่ยวเร็ว ไม่เปล่งปลั่ง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ (ในกรณีที่ป่วย) หรือเลือกกินอาหารที่ช่วยกระตุ้นร่างกายให้สร้างกลูต้าไธโอนได้ดีขึ้น ได้แก่ ปลา เนื้อหมู เนื้อวัว นม ไข่ หน่อไม้ฝรั่ง ผักโขม มะเขือเทศ และผลไม้ เช่น แตงโม สตรอว์เบอร์รี่ องุ่น อะโวคาโด
ข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับความรัก
ข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับความรัก
- ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยที่คนเราจะรักใครซักคนอย่างหมดหัวใจ ถ้าวันหนึ่งคุณได้รู้จักความรัก ก็จงรู้คุณค่าของมันอย่างที่สุด
- ไม่มีผู้ชายและผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ แต่ซักวันหนึ่งจะมีใครซักคนที่คุณจะมองข้ามทุกความผิดพลาดของเขาและเธอ ด้วยเหตุผลเพียงแค่ "รัก" คำเดียว
- คุณอาจจะมีความรักที่ผิดผลาดในอดีต แต่จงอย่าผิดผลาดกับความรักในปัจจุบันอีก
- จงคิดถึงวันที่คุณสองคนรักกัน ให้มากกว่าวันที่คุณสองคนทะเลาะกัน ความรักไม่ได้อยู่กับเราทั้งชีวิต คนเราไม่ได้มีอายุยืนขนาดนั้น
- จงอย่าปล่อยให้คนที่คุณรักมีชีวิตอย่างโดดเดี่ยว จะเป็นทั้งเพื่อน ครู พ่อ แม่ ญาติสนิท ไม่ใช่เพื่อให้เขารักคุณ แต่เพราะคุณคือคนที่เขาจะรัก และรักมากกว่าใคร ๆ ทั้งหมด
- อย่าพยายามเป็นทุกอย่างในชีวิตของเขา แต่จงเป็นส่วนหนึ่งที่จะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป เพราะมันจะเป็นความรักที่อบอุ่นและยาวนานกว่ารักใด ๆ
- ความรักที่แท้จริงไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้หญิงและผู้ชายที่เราชอบเท่านั้น จงอย่าลืมเสมอว่า พ่อ แม่ ของเราก็รักเรามากกว่าใคร ๆ เช่นกัน
- คำพูดว่า "รัก" จะไม่มีคุณค่าใด ๆ ถ้าคุณไม่ได้พูดมันจากหัวใจของคุณ
- วันใดที่คุณคิดทำร้ายตัวคุณเองและอดีตคนที่คุณรัก นั้นคือการบอกว่าคุณรักตัวเองมากกว่าใคร ๆ และคุณก็ไม่รู้จักหัวใจที่แท้จริงของความรัก
- คุณอาจจะใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อค้นหา ความรัก ทั้ง ๆ ที่มันอยู่ข้าง ๆ หัวใจคุณแล้วก็ได้... บางครั้งคุณอาจจะต้องยืนรอให้ความรักวิ่งชนคุณบ้างก็ได้
เสียงกับการดึงดูดความสนใจของชายหนุ่ม
เสียงกับการดึงดูดความสนใจของชายหนุ่ม
นักมานุษยวิทยา จากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สเตท พบว่าหญิงสาวที่มักด้วยพูดเสียงเพียงเบา ๆ อ้อมแอ้ม ๆ การพูดเสียงดังขึ้นของคุณจะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชายได้ แต่โปรดจำไว้ว่า คุณผู้หญิงไม่อาจใช้เสียงดังกล่าวนี้กับพี่สาว หรือน้องสาวของคุณได้ เนื่องจากผู้หญิงจะสามารถตีความน้ำเสียงนั้นได้ว่าเป็นการหว่านสเน่ห์ของคุณต่อพวกเธอในระดับใด
จากการทดสอบให้ผู้ชายฟังเสียงของผู้หญิงในระดับต่าง ๆ พบว่า ผู้ชายส่วนใหญ่กล่าวว่าผู้หญิงที่มีโทนเสียงสูงน่าดึงดูดใจมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีเมื่อผู้ชายต้องการเข้าหาเพื่อความสนุกชั่วข้ามคืน ในขณะที่เมื่อผู้หญิงได้ฟังเสียงดังกล่าว พวกเธอสามารถที่จะบอกได้อย่างแม่นยำว่าเสียงใดจะดึงดูดใจชายได้มากที่สุด
งานวิจัยซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารบุคลิกและความแตกต่างส่วนบุคคล(Personality and Individual Differences) กล่าวแนะว่า ผู้หญิงที่มีระดับโทรเสียงสูง ผู้ชายมักจะตีความในด้านของความเป็นวัยสาว และความอุดมสมบูรณ์ ส่วนผู้ชายที่มีเสียงต่ำจะแสดงถึงความมีอำนาจ นักมานุษวิทยาเชื่อว่า ระดับเสียงสูงในผู้หญิงอาจพัฒนาให้รู้สึกถึงความเป็นวัยสาว ความขี้เล่น และความน่าดึงดูดใจต่อการพัฒนาความสัมพัน
เคล็ดลับดับกลิ่นปาก
เคล็ดลับ ลดกลิ่นปาก
1. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะการดื่มน้ำมากๆ ช่วยล้างแบคทีเรียออกจากน้ำลาย
2. อย่าปล่อยให้ปากแห้ง เพราะจะทำให้ความเข้มข้นของแบคทีเรียในปากเพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดกลิ่นปากได้ง่าย
3. ดื่มน้ำมะนาว จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลาย
4. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ เพราะจะทำให้เกิดกลิ่นปากได้
5. แปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหาร และอย่าลืมแปรงด้านบนของลิ้นด้วย
6. ถ้าไม่สะดวกจะแปรงฟัน ให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่า และหากแปรงเสียให้เปลี่ยนแปรง
7. ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
8. เลิกสูบบุหรี่
9. ตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ
1. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะการดื่มน้ำมากๆ ช่วยล้างแบคทีเรียออกจากน้ำลาย
2. อย่าปล่อยให้ปากแห้ง เพราะจะทำให้ความเข้มข้นของแบคทีเรียในปากเพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดกลิ่นปากได้ง่าย
3. ดื่มน้ำมะนาว จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลาย
4. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ เพราะจะทำให้เกิดกลิ่นปากได้
5. แปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหาร และอย่าลืมแปรงด้านบนของลิ้นด้วย
6. ถ้าไม่สะดวกจะแปรงฟัน ให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่า และหากแปรงเสียให้เปลี่ยนแปรง
7. ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
8. เลิกสูบบุหรี่
9. ตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ
วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554
สมุนไพร สมุนไพรสลายไขมัน
สมุนไพร สมุนไพรสลายไขมัน
โรคอ้วน เป็นโรคที่เกิดจากภาวะไม่สมดุลระหว่างการได้รับพลังงานและการใช้พลังงาน ซึ่งก็มีสาเหตุต่างๆ กันออกไป เช่น กรรมพันธุ์ การเผาผลาญพลังงานและระบบต่อมไร้ท่อผิดปกติ หรืออาจจะเกิดจากการรับประทานมากเกินไป
คนที่ลองใช้สารพันวิธีในการลดความอ้วนแล้วไม่ได้ผล ลองหันมาใช้สมุนไพรต่างๆ ที่จะแนะนำควบคู่กันไป อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนอ้วนที่ต้องการเอาชนะความอ้วนก็ได้
ชาเขียว ได้มีการทดลองนำเอา สารสกัดชาเขียว ซึ่งมี catechin อยู่ 25% โดยทดลองในหลอดทดลอง พบว่ามีฤทธิ์ยับยั้ง gastric และ pancreatic lipase และกระตุ้นการสร้างความร้อนในร่างกาย(Thermogenesis)
นักวิจัยจึงนำสารสกัดชาเขียวมาทดลองกับผู้ที่เป็นโรคอ้วนไม่มากนัก (moderate obes patient) โดยทดลองกับชายอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยให้รับประทานสารสกัด วันละ 2 ครั้ง เช้า กลางวัน ครั้งละ 2 แคปซูล (รวมแล้วได้ catechin 375 มก./วัน) พบว่าหลังจาก 3 เดือน น.น. ลดลง 4.0% และรอบเอวลดลง 4.48% ซึ่งเป็นการสนับสนุนได้ว่าสารสกัดชาเขียวมีผลลดความอ้วนได้ โดยออกฤทธิ์ยับยั้ง lipase และกระตุ้นการเกิดความร้อนขึ้นในร่างกาย
พริกไทย สารสำคัญที่คาดว่าช่วยลดน้ำหนักคือ อัลคาลอยด์ piperine ซึ่งเป็นอัลคาลอยด์ที่ทำให้มีรสชาดเผ็ดร้อน ปกติพริกไทยใช้เป็นเครื่องเทศ แต่ใช้ในปริมาณน้อย ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร อาจเพราะมีสารกลุ่มโมโนเทอร์ปีนและเซคลิเทอร์ปีนซึ่งเป็นสารที่ให้กลิ่นเฉพาะของพริกไทย
บุก มีสารสำคัญที่ช่วยลดน้ำหนักคือ คาร์โบไฮเดรต(หรือ Dietary fiber) มีชื่อเรียกว่า กลูโคแมนแนน แต่บุกมีผลึกคัลเซียมออกซาเลตอยู่มาก ต้องกำจัดด้วยการต้มน้ำหลายๆ ครั้งก่อนนำมาปรุงเป็นอาหาร
ส้มแขก ทางภาคใต้ใช้แต่งรสเปรี้ยวในอาหาร สารสำคัญที่คาดว่าสามารถลดความอ้วนของส้มแขก คือ HCA (Hydroxy Citric Acid) สรรพคุณแผนโบราณใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ และขับปัสสาวะ
ลองผสมผสานหลายๆ วิธีให้เหมาะกับตัวคุณ อย่าเพิ่งท้อ..หากคุณตั้งใจจริง ความสำเร็จที่จะใส่กางเกงเอวต่ำโชว์พุงแบนราบที่กำลังนิยมกัน รออยู่ข้างหน้า
คนที่ลองใช้สารพันวิธีในการลดความอ้วนแล้วไม่ได้ผล ลองหันมาใช้สมุนไพรต่างๆ ที่จะแนะนำควบคู่กันไป อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนอ้วนที่ต้องการเอาชนะความอ้วนก็ได้
ชาเขียว ได้มีการทดลองนำเอา สารสกัดชาเขียว ซึ่งมี catechin อยู่ 25% โดยทดลองในหลอดทดลอง พบว่ามีฤทธิ์ยับยั้ง gastric และ pancreatic lipase และกระตุ้นการสร้างความร้อนในร่างกาย(Thermogenesis)
นักวิจัยจึงนำสารสกัดชาเขียวมาทดลองกับผู้ที่เป็นโรคอ้วนไม่มากนัก (moderate obes patient) โดยทดลองกับชายอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยให้รับประทานสารสกัด วันละ 2 ครั้ง เช้า กลางวัน ครั้งละ 2 แคปซูล (รวมแล้วได้ catechin 375 มก./วัน) พบว่าหลังจาก 3 เดือน น.น. ลดลง 4.0% และรอบเอวลดลง 4.48% ซึ่งเป็นการสนับสนุนได้ว่าสารสกัดชาเขียวมีผลลดความอ้วนได้ โดยออกฤทธิ์ยับยั้ง lipase และกระตุ้นการเกิดความร้อนขึ้นในร่างกาย
พริกไทย สารสำคัญที่คาดว่าช่วยลดน้ำหนักคือ อัลคาลอยด์ piperine ซึ่งเป็นอัลคาลอยด์ที่ทำให้มีรสชาดเผ็ดร้อน ปกติพริกไทยใช้เป็นเครื่องเทศ แต่ใช้ในปริมาณน้อย ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร อาจเพราะมีสารกลุ่มโมโนเทอร์ปีนและเซคลิเทอร์ปีนซึ่งเป็นสารที่ให้กลิ่นเฉพาะของพริกไทย
บุก มีสารสำคัญที่ช่วยลดน้ำหนักคือ คาร์โบไฮเดรต(หรือ Dietary fiber) มีชื่อเรียกว่า กลูโคแมนแนน แต่บุกมีผลึกคัลเซียมออกซาเลตอยู่มาก ต้องกำจัดด้วยการต้มน้ำหลายๆ ครั้งก่อนนำมาปรุงเป็นอาหาร
ส้มแขก ทางภาคใต้ใช้แต่งรสเปรี้ยวในอาหาร สารสำคัญที่คาดว่าสามารถลดความอ้วนของส้มแขก คือ HCA (Hydroxy Citric Acid) สรรพคุณแผนโบราณใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ และขับปัสสาวะ
ลองผสมผสานหลายๆ วิธีให้เหมาะกับตัวคุณ อย่าเพิ่งท้อ..หากคุณตั้งใจจริง ความสำเร็จที่จะใส่กางเกงเอวต่ำโชว์พุงแบนราบที่กำลังนิยมกัน รออยู่ข้างหน้า
ความรักคืออะไร
ความรัก ของคุณคืออะไร?
ความรัก คือโชคอย่างหนึ่งเพราะใช่ว่าทุกคนจะมีได้
ความรักเป็นได้ทั้งมืดเเละผ้าพันเเผลเวลาเสียใจ
ความรัก คือสิ่งเติมเต็มให้ชิวิตไม่รู้สึกขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง
ความรัก คือ ความหวัง กำลังใจเเละศรัทธาในกันเเละกัน
ความรักมีความลับอยู่อย่างหนึ่งว่า . . .
ไม่ได้รักในสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข
เเต่เรากลับมีความสุขในสิ่งที่เรารักต่างหาก
ความรัก คือ ศิลปะที่คนมีรักเท่านั้นที่จะเข้าใจเเละเห็นคุณค่า
ความรัก คือ โอกาสที่เราจะได้พิสูจน์จิตวิญญาณของตัวเอง
ความรัก คือสิ่งที่ทำให้คนฉลาดกลายเป็นคนโง่
ทำให้คนโง่กลาย เป็นคนฉลาดในเวลาเดียวกัน
ความรัก เมื่อสูญเสียไปเเล้วก็ยังดีกว่าไม่เคยรัก
ความรัก มิได้เป็นการก้าวนำหรือก้าวตามเเต่เป็นการก้าวไปพร้อมๆ กัน
ความรัก ทำให้คนเราเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์เดิมๆ ของชีวิต
ความรักทำให้จดจำคืนพิเศษคืนเดียวไปตลอดชีวิต . ..
เพราะทุกคืนที่ ไร้ความรักก็มิอาจเทียบเท่าได้กับคืนนี้เพียงคืนเดียว
ความรัก คือการยอมเป็นน้ำเย็นในขณะที่อีกฝ่ายร้อนเป็นไฟ
ความรัก ที่มีมาเป็นปีๆก็สามารถพังทลายลงได้เพียงเสี้ยววินาที
ความรัก จะยาวนานหรือจะเเสนสั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับคนสองคนที่รักกัน
ความรัก กว่าจะพบเจอได้นั้นเเสนยากแต่กลับเลิกรักได้อย่างง่ายดาย
ความรัก สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ตลอดเวลาเหมือนถ่านไฟเก่า
ที่กำลังคุโชนและร้อนแรง
ความรัก ต่อให้บอกกันทุกวันก็ไม่มีวันเบื่อ . ..
เเต่ความเกลียดสิบอกกันครั้งเดียวก็คงไม่อยากได้ยินอีกต่อไป. . .
ความรัก ถ้าไม่รักเเล้วต่อให้พูดมากเท่าใดก็ไม่สามารถรักกันได้
ความรัก สามารถให้อภัยกันได้เสมอโดยไม่มีเงื่อนไขว่ากี่ครั้ง
ความรัก รักได้เเต่อย่าหลงเพราะถ้าหลงเวลาเลิกเเล้วจะเจ็บปวด
ความรัก อยู่เหนือคำทำนายเเละจะไม่มีวันเป็นไปตามนั้น
แล้วความรักของคุณล่ะคืออะไร . . . . .
ความรักเป็นได้ทั้งมืดเเละผ้าพันเเผลเวลาเสียใจ
ความรัก คือสิ่งเติมเต็มให้ชิวิตไม่รู้สึกขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง
ความรัก คือ ความหวัง กำลังใจเเละศรัทธาในกันเเละกัน
ความรักมีความลับอยู่อย่างหนึ่งว่า . . .
ไม่ได้รักในสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข
เเต่เรากลับมีความสุขในสิ่งที่เรารักต่างหาก
ความรัก คือ ศิลปะที่คนมีรักเท่านั้นที่จะเข้าใจเเละเห็นคุณค่า
ความรัก คือ โอกาสที่เราจะได้พิสูจน์จิตวิญญาณของตัวเอง
ความรัก คือสิ่งที่ทำให้คนฉลาดกลายเป็นคนโง่
ทำให้คนโง่กลาย เป็นคนฉลาดในเวลาเดียวกัน
ความรัก เมื่อสูญเสียไปเเล้วก็ยังดีกว่าไม่เคยรัก
ความรัก มิได้เป็นการก้าวนำหรือก้าวตามเเต่เป็นการก้าวไปพร้อมๆ กัน
ความรัก ทำให้คนเราเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์เดิมๆ ของชีวิต
ความรักทำให้จดจำคืนพิเศษคืนเดียวไปตลอดชีวิต . ..
เพราะทุกคืนที่ ไร้ความรักก็มิอาจเทียบเท่าได้กับคืนนี้เพียงคืนเดียว
ความรัก คือการยอมเป็นน้ำเย็นในขณะที่อีกฝ่ายร้อนเป็นไฟ
ความรัก ที่มีมาเป็นปีๆก็สามารถพังทลายลงได้เพียงเสี้ยววินาที
ความรัก จะยาวนานหรือจะเเสนสั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับคนสองคนที่รักกัน
ความรัก กว่าจะพบเจอได้นั้นเเสนยากแต่กลับเลิกรักได้อย่างง่ายดาย
ความรัก สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ตลอดเวลาเหมือนถ่านไฟเก่า
ที่กำลังคุโชนและร้อนแรง
ความรัก ต่อให้บอกกันทุกวันก็ไม่มีวันเบื่อ . ..
เเต่ความเกลียดสิบอกกันครั้งเดียวก็คงไม่อยากได้ยินอีกต่อไป. . .
ความรัก ถ้าไม่รักเเล้วต่อให้พูดมากเท่าใดก็ไม่สามารถรักกันได้
ความรัก สามารถให้อภัยกันได้เสมอโดยไม่มีเงื่อนไขว่ากี่ครั้ง
ความรัก รักได้เเต่อย่าหลงเพราะถ้าหลงเวลาเลิกเเล้วจะเจ็บปวด
ความรัก อยู่เหนือคำทำนายเเละจะไม่มีวันเป็นไปตามนั้น
แล้วความรักของคุณล่ะคืออะไร . . . . .
นอนหลับอย่างไรให้ถูกวิธี
นอนหลับ นอนอย่างไรให้ถูกวิธี
การนอนถือว่าเป็นกิจวัตรที่ใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิตเราเลยทีเดียวฉะนั้นหากเราไม่ใส่ใจถึงวิธีการนอนที่ถูกสุขลักษณะแล้ว อาจจะมีผลต่อระบบหลายๆระบบในร่างกายของเรา โรคต่างๆก็ตามมา คุณภาพชีวิตก็อาจจะไม่ดีตามมาด้วย
ในชีวิตของคนเรา ตัวเลข 30,000 คือจำนวนวันโดยเฉลี่ยที่เรามีชีวิตอยู่บโลกนี้ 10,000 คือจำนวนวันที่เราใช้ไปกับการนอนหลับ เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้ที่เหลืออีก 20,000 วันได้ใช้ชีวิตอย่าเต็มที่ ให้ลองเปลี่ยนท่านอนให้เหมาะสม เพราะการนอนหลับมีผลต่อการทำงานของสมองมาก แล้วท่าไหนดีละ ไปดูกันเลย
1. นอนหงายดีที่สุด
ท่านอนหงายเป็นท่าที่ทำให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวธรรมชาติ ลดแรงกดทับบนร่างกายและระบบประสาท ทำให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนเต็มที่ ระบบทางเดินหายใจและการไหลเวียนโลหิตสามารถไหลเวียนได้ดี แต่อย่างไรก็ตามคะ ท่านอนหง่ายนี้ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อนคะ เพราะจะเป็นการเพิ่มแรงดันในช่องท้องให้เกิดอาการรุนแรงขึ้นได้
2. รองมาคือนอนตะแคง
ใครที่บอกว่า " ไม่ถนัดนอนหงายเลย ยังไงก็นอนไม่สบายเท่านอนตะแคง " เอางั้นก็ได้คะ แต่พยายามให้นอนตะแคงซ้ายมากกว่าตะแคงขวา เพราะการนอนตะแคงซ้ายจะทำให้แรงกดทับบนหัวใจและกระดูกสันหลังน้อยกว่า และข้อดีของการนอนตะแคงซ้ายอีกอย่างคือช่วยทำให้หายใจสะดวก ซึ่งเหมาะกับคนที่ชอบนอนกรนคร่อกๆคะ
3. นอนคว่ำ ท่านี้ที่ควรหลีกเลี่ยง
การนอนคว่ำจะทำให้อวัยวะภายในอย่างตับไตไส้พุงถูกกดทับทั้งคืนคะ โดยฉะเพราะเรื่องทางเดินระบบหายใจจะแย่มากๆ แต่ถ้าคิดว่าชีวิตนี้เลิกนอนคว่ำไม่ได้จริงๆละก็ให้หาหมอนมารองใต้สะโพกคะ เพื่อลดแรงกดทับที่หลังส่วนด้านล่างคะ
ในชีวิตของคนเรา ตัวเลข 30,000 คือจำนวนวันโดยเฉลี่ยที่เรามีชีวิตอยู่บโลกนี้ 10,000 คือจำนวนวันที่เราใช้ไปกับการนอนหลับ เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้ที่เหลืออีก 20,000 วันได้ใช้ชีวิตอย่าเต็มที่ ให้ลองเปลี่ยนท่านอนให้เหมาะสม เพราะการนอนหลับมีผลต่อการทำงานของสมองมาก แล้วท่าไหนดีละ ไปดูกันเลย
1. นอนหงายดีที่สุด
ท่านอนหงายเป็นท่าที่ทำให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวธรรมชาติ ลดแรงกดทับบนร่างกายและระบบประสาท ทำให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนเต็มที่ ระบบทางเดินหายใจและการไหลเวียนโลหิตสามารถไหลเวียนได้ดี แต่อย่างไรก็ตามคะ ท่านอนหง่ายนี้ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อนคะ เพราะจะเป็นการเพิ่มแรงดันในช่องท้องให้เกิดอาการรุนแรงขึ้นได้
2. รองมาคือนอนตะแคง
ใครที่บอกว่า " ไม่ถนัดนอนหงายเลย ยังไงก็นอนไม่สบายเท่านอนตะแคง " เอางั้นก็ได้คะ แต่พยายามให้นอนตะแคงซ้ายมากกว่าตะแคงขวา เพราะการนอนตะแคงซ้ายจะทำให้แรงกดทับบนหัวใจและกระดูกสันหลังน้อยกว่า และข้อดีของการนอนตะแคงซ้ายอีกอย่างคือช่วยทำให้หายใจสะดวก ซึ่งเหมาะกับคนที่ชอบนอนกรนคร่อกๆคะ
3. นอนคว่ำ ท่านี้ที่ควรหลีกเลี่ยง
การนอนคว่ำจะทำให้อวัยวะภายในอย่างตับไตไส้พุงถูกกดทับทั้งคืนคะ โดยฉะเพราะเรื่องทางเดินระบบหายใจจะแย่มากๆ แต่ถ้าคิดว่าชีวิตนี้เลิกนอนคว่ำไม่ได้จริงๆละก็ให้หาหมอนมารองใต้สะโพกคะ เพื่อลดแรงกดทับที่หลังส่วนด้านล่างคะ
ส่วนใครที่ปัญหาเรื่องนอนกรน อย่าคิดเชี่ยวน่ะคะว่าการนอนกรนหายใจฟืดฟาดไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะมันอาจทำให้คู่รักเตียงหักได้เลยทีเดียว ซึ่งเราก็มีวิธีแนะนำเพื่อช่วยแก้อาการดังนี้คะ
1. เปลี่ยนท่านอน ท่านอนหงายจะทำให้เรานอนกรนง่ายที่สุด ให้เปลี่ยนไปนอนตะแคงดีกว่า
2. เลือกหมอนที่สูงพอดี อย่านอนบนหมอนที่ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป เพราะจะทำให้หายใจไม่สะดวก ให้เลือกหมอนที่มีส่วนโค้งรับกับต้นคอไว้จะดีกว่าคะ
3. ลดน้ำหนัก คนอ้วนมักจะนอนกรนมากกว่าคนผอม เพราะฉะนั้นแค่ลดน้ำลงสัก 10 % ของที่มีอยู่ ก็ช่วยเรื่องการกรนได้แล้วละคะ
4. งดแอลกอฮอล์หรือยากล่อมประสาทก่อนนอน เพราะจะทำให้หายใจไม่สะดวก ลองงดพวกนี้ก่อนนอน จะทำให้กรนน้อยลงได้คะ
5. ทำให้จมูกโล่งก่อนนอน การเป็นหวัดคัดจมูกหรือมีน้ำมูกก็เป็นสาเหตุของการนอนกรนได้คะ ซึ่งอาจแก้ได้โดยการเตรียมน้ำร้อนก่อนนอนให้เต็มอ่าง หยดยูคาลิปตัสลงไป แล้วชะโงกหน้าเอาผ้าคลุมศีรษะไว้ ไอน้ำจะช่วยทำให้จมูกโล่งขึ้นคะ
1. เปลี่ยนท่านอน ท่านอนหงายจะทำให้เรานอนกรนง่ายที่สุด ให้เปลี่ยนไปนอนตะแคงดีกว่า
2. เลือกหมอนที่สูงพอดี อย่านอนบนหมอนที่ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป เพราะจะทำให้หายใจไม่สะดวก ให้เลือกหมอนที่มีส่วนโค้งรับกับต้นคอไว้จะดีกว่าคะ
3. ลดน้ำหนัก คนอ้วนมักจะนอนกรนมากกว่าคนผอม เพราะฉะนั้นแค่ลดน้ำลงสัก 10 % ของที่มีอยู่ ก็ช่วยเรื่องการกรนได้แล้วละคะ
4. งดแอลกอฮอล์หรือยากล่อมประสาทก่อนนอน เพราะจะทำให้หายใจไม่สะดวก ลองงดพวกนี้ก่อนนอน จะทำให้กรนน้อยลงได้คะ
5. ทำให้จมูกโล่งก่อนนอน การเป็นหวัดคัดจมูกหรือมีน้ำมูกก็เป็นสาเหตุของการนอนกรนได้คะ ซึ่งอาจแก้ได้โดยการเตรียมน้ำร้อนก่อนนอนให้เต็มอ่าง หยดยูคาลิปตัสลงไป แล้วชะโงกหน้าเอาผ้าคลุมศีรษะไว้ ไอน้ำจะช่วยทำให้จมูกโล่งขึ้นคะ
วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554
สูตรลดน้ำหนัก
สูตรลับไดเอต
ลดความอ้วนแบบดารานางแบบฮอลลีวูด
ดารานางแบบฮอลลีวูด เค้าสวยผอมได้ทันใจเหมือนสั่งได้เลยใช่มั้ยคะ นั่นเพราะเค้ามีสูตรดีค่ะ เราเลยเอามาฝากทุกๆ ด้วยค่ะ สูตรนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 7 วันเท่านั้นเองค่ะ แต่ก็จะทำนานว่านั้นก็ไม่ว่าอะไรนะคะ
* กินแฮมต้ม 2 แผ่นในมื้อเช้าตลอด 7 วัน
* มื้อกลางวันกินผลไม้สดบ้าง สลัดผลไม้บ้างในบางวัน
* กินซุปผักโขม 1-2 ถ้วย ในมื้อเย็นตลอด 7 วัน
สูตรนางแบบไทย
ดูสูตรลดน้ำหนักจาเมืองนอกมาก็มากแล้ว ลองดู สูตรที่นางแบบไทยเค้าใช้กันบ้าง นะคะ เช่นเดียวกันใช้เวลา 7 วันค่ะ
* กินแอปเปิ้ลเขียว 1 ผลเป็นมื้อเช้าตลอดทั้ง 7 วัน ถ้าไม่ชอบก้อาจกินแอปเปิ้ลเขียวให้กินส้มหรือ ฝรั่งหรือ มะละกอหรือสับปะรดแทนได้ แต่ห้ามกินผลไม้หวานจัดเช่น เงาะ ละมุด มังคุด น้อยหน่า องุ่นค่ะ
* มื้อกลางวัน กินเกาเหลาใส่ผักเยอะๆ สลับกับส้มตำและปลาดุกย่างตลอด 7 วัน อาจเปลี่ยนปลาย่างเป็นปลานึ่งตัวเล็กๆ 1 ตัวกินกับผักนึ่งก็ได้ค่ะ
* มื้อเย็น กินซุปผักหรือแกงจืดสลับกับสลัดผักใส่ไข่ต้มหั่นเป็นแว่นๆ สลับกับแฮมต้ม 2 แผ่นทั้ง 7 วันค่ะ
สูตรผอมทันใจ
อันนี้เค้าว่ามาอย่างนี้นะคะ ไม่รู้ว่าจะผอมได้ทันใจจริงๆ รึเปล่า แต่ถ้าหากประเภทหนัก 100 กิโลจะมาผอมเหลือ 40 กิโลภายใน 7 วันก็คงเป็นไปไม่ได้นะคะ แบบนั้นอันตรายเกินไปค่ะ เอาเป็นว่าลดได้ตามสภาพร่างกายของแต่ละคนละนะคะ สูตรนี้ก็ใช้เวลา 7 วันเช่นกันค่ะ
* กินไข่ต้ม 1 ฟอง เป็นอาหารเช้า 4 วันติดกัน อีก 3 วันที่เหลือกิน กล้วย 1 ผล
* มื้อกลางวันกินส้มตำกับตับปิ้ง 1-2 ไม้ บางวันอาจเปลี่ยนเป็นส้มตำกับซุบหน่อไม้แทนได้ค่ะ ถ้าไม่ชอบท้องถิ่นมากก็เปลี่ยนมาทานสลัดผักสดกับทูน่าแทน กินอย่างนี้ 4 วันค่ะ อีก 3 วันที่เเหลือให้กินก๋วยเตี่ยวไก่
* มื้อเย็นกินผักนึ่งกับน้ำพริก ไม่กินข้าวนะคะ บางวันอาจมีปลานึ่งตัวเล็กๆ 1 ตัว กินอย่านี้ตลอด 7 วันถ้าไม่ชอบน้ำพริกให้กินแกงจืดผักเยอะและใส่เห็ดฟางค่ะ
สูตรลดน้ำหนักด่วนแบบจีน
เรามีสูตรลดน้ำหนักแบบดาราฮอลีวูดกันมาแล้ว วันนี้เราก็ขอเสนอ สูตรลดน้ำหนักแบบด่วนของจีน กันบ้างนะคะลองดูนะคะ อาจจะไม่โหดเท่าของฮอลีวูดก็ได้ค่ะ
* กินข้าวต้ม 1 ถ้วยทั้งมื้อเช้าและกลางวันตลอด 7 วัน
* กินแกงจืดฟักใส่กุ้งแห้ง 1 ถ้วย สลับกับกินต้มจับฉ่ายในมื้อเย็นตลอด 7 วัน
สูตรนี้น่าจะทำได้ง่ายนะคะ เพราะได้ทานข้าวกันตั้ง 2 มื้อ แต่ก็ต้องระวังหน่อยนะคะ อย่าทานข้าวเยอะเกินไปค่ะ
- หมายเหตุ มื้อเช้าทานข้าวต้ม ในสูตรไม่ได้บอกว่าทานกับอะไร เข้าใจว่าน่าจะทานข้าวต้มเปล่าๆ แต่ก็น่าจะหากับข้าวเบาๆ มาทานด้วยได้นะคะ เช่น ปลากรอบ ไข่ต้ม ยำกุ้งแห้ง ยำผักดอง เป็นต้นค่ะ เลือกกับที่ไม่มีไขมันนะคะ
ลดหุ่น 7 วันโปรแกรมที่ 1 สูตรยอดนิยม
เรามีโปรแกรมลดน้ำหนักมาให้คุณ เป็นโปรแกรม 7 วันค่ะ โดยที่เรามี 3 โปรแกรมมาให้เลือกค่ะ ลองเลือกดูนะคะว่าโปรแกรมไหนจะเหมาะกับคุณมากที่สุดค่ะ
วันที่ 1
เช้า ไข่ต้ม 1 ฟอง
กลางวัน ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม
เย็น ทูน่า 1 จานเล็ก (1 กระป๋องทูน่าในน้ำเกลือ) บีบมะนาว และใส่พริกไทยให้มากๆ
ของว่าง ผลไม้ โยเกิร์ต
ออกกำลังกาย เดินเร็ว 35 นาที
วันที่ 2
เช้า ไข่ต้ม 1 ฟอง
กลางวัน ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม
เย็น ทูน่า 1 จานเล็ก (1 กระป๋องทูน่าในน้ำเกลือ) บีบมะนาว และใส่พริกไทยให้มากๆ
ของว่าง ถั่วลิสง 2 ช้อนโต๊ะ
ออกกำลังกาย เต้นแอโรบิก 45 นาที
วันที่ 3
เช้า แฮมต้ม 2 แผ่น
กลางวัน ข้าวราดผัดผัก
เย็น น้ำพริกกับผักลวก (ไม่มีข้าว)
ของว่าง เมล็ดทานตะวัน 2-3 ช้อนโต๊ะ
ออกกำลังกาย กายบริหาร 20-30 นาที (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 4
เช้า แฮมต้ม 2 แผ่น
กลางวัน ข้าวราดแกง
เย็น น้ำพริกกับผักสด
ของว่าง ข้าวโพดต้ม 1 ฝัก
ออกกำลังกาย เต้นแอโรบิก 60 นาที
วันที่ 5
เช้า ไข่ต้ม 1 ฟอง
กลางวัน เกาเหลาลูกชิ้น ใส่ผักเยอะๆ
เย็น ซุบผักหรือต้มจับฉ่าย
ของว่าง ผลไม้ โยเกิร์ต
ออกกำลังกาย กระโดดเชือก 20 นาที (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 6
เช้า ไข่ต้ม 1 ฟอง
กลางวัน เกาเหลาลูกชิ้น ใส่ผักเยอะๆ
เย็น ซุบผักหรือต้มจับฉ่าย
ของว่าง ขนมปังโฮลวีตทาแยมผลไม้
ออกกำลังกาย กายบริหาร 20-30 นาที
วันที่ 7
เช้า โจ๊ก 1 ถ้วย
กลางวัน สลัดผักหรือส้มตำหรือซุบหน่อไม้
เย็น ปลานึ่ง ผักลอกจิ้มน้ำพริก
ของว่าง กล้วย 1 ผล
ออกกำลังกาย กายบริหาร 20-30 นาที (ชั่งน้ำหนัก)
ลดหุ่น 7 วันโปรแกรมที่ 2 สูตรเข้มข้น
สูตรนี้เป็นสูตรล้างพิษแบบประยุกต์และยังทำให้น้ำหนักลดลงได้อย่างรวดเร็วด้วยค่ะ ซึ่งสูตรทำซุปผักต่างๆ สามารถดูได้จากสูตรล้างพิษที่เราเคยให้ไว้นะคะ
วันที่ 1
เช้า น้ำแอปเปิ้ลปั่นสดไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ซุปผัก
เย็น ซุปผัก
ถ้าหิว แอปเปิ้ลเขียว 1 ผล
วันที่ 2
เช้า น้ำแอปเปิ้ลปั่นสดไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ผักสด น้ำสลัดใส คลุกน้ำมันมะกอกและบีบมะนาวเท่านั้นค่ะ
เย็น ผักสด น้ำสลัดใส คลุกน้ำมันมะกอกและบีบมะนาวเท่านั้นค่ะ
ถ้าหิว แอปเปิ้ลเขียว 1 ผล (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 3
เช้า น้ำองุ่นแดงบีบหรือคั้น
กลางวัน ผักต้มหรือนึ่ง (แครอท ผักโขม บร็อกโคลี)
เย็น มันฝรั่งต้ม หรือซุปหอมใหญ่ใส่มันฝรั่ง
ถ้าหิว โยเกิร์ต
วันที่ 4
เช้า น้ำองุ่นแดงบีบหรือคั้น
กลางวัน มันฝรั่งต้ม หรือไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น โจ๊กใส่ไข่ 1 ถ้วย
ถ้าหิว กล้วย 1 ผล
วันที่ 5
เช้า น้ำมะละกอปั่น
กลางวัน ซุปผักรวมกับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น
เย็น โจ๊กใส่ไข่ 1 ถ้วย
ถ้าหิว กล้วย 1 ผล (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 6
เช้า น้ำมะละกอปั่น
กลางวัน ซุปผักรวมกับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น
เย็น โจ๊กใส่ไข่ 1 ถ้วย
ถ้าหิว กล้วย 1 ผล (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 7
เช้า น้ำมะละกอปั่น
กลางวัน สลัดผักสดกับแฮมหรือเนื้อไก่ฉีก
เย็น ซุปผักรวม
ถ้าหิว โยเกิร์ต
ลดหุ่น 7 วันโปรแกรมที่ 3 สูตรดั้งเดิม
สูตรนี้เป็นสูตรสำหรับคนที่ต้องการเดินสายกลางค่ะ ไม่ควบคุมอาหารจนโหย แต่เน้นการเผาผลาญพลังงานค่ะ
วันที่ 1
เช้า โจ๊ก 1 ถ้วย
กลางวัน ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม
เย็น ซุปผัก
ออกกำลังกาย เดิน 30 นาที
ของว่างระหว่างมื้อ กินผลไม้หรือกล้วย 1 ผลทุกวัน
วันที่ 2
เช้า โจ๊ก 1 ถ้วย
กลางวัน ข้าวราดแกง 1 จาน
เย็น ผลไม้รวม 1 จาน
ออกกำลังกาย วิ้งจ๊อกกิ้ง 40 นาที
วันที่ 3
เช้า ไข่ต้ม 2 ฟอง
กลางวัน ซุปผักรวม
เย็น ซุปผักรวม
ออกกำลังกาย พัก (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 4
เช้า โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน ข้าวราดแกง 1 จาน
เย็น ปลานึ่งกับน้ำพริกผักลวก
ออกกำลังกาย เต้นแอโรบิก 60 นาที
วันที่ 5
เช้า โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน เกาเหลาลูกชิ้นใส่ผักเยอะๆ 1 ถ้วย
เย็น ข้าวต้มปลา 1 ถ้วย
ออกกำลังกาย ว่ายน้ำ 60 นาที (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 6
เช้า ไข่ต้ม 2 ฟอง
กลางวัน ซุปผักรวม
เย็น ซุปผักรวม
ออกกำลังกาย พัก
วันที่ 7
เช้า โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม
เย็น สลัดผักสด
ออกกำลังกาย พัก (ชั่งน้ำหนัก)
ลดความอ้วนแบบดารานางแบบฮอลลีวูด
ดารานางแบบฮอลลีวูด เค้าสวยผอมได้ทันใจเหมือนสั่งได้เลยใช่มั้ยคะ นั่นเพราะเค้ามีสูตรดีค่ะ เราเลยเอามาฝากทุกๆ ด้วยค่ะ สูตรนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 7 วันเท่านั้นเองค่ะ แต่ก็จะทำนานว่านั้นก็ไม่ว่าอะไรนะคะ
* กินแฮมต้ม 2 แผ่นในมื้อเช้าตลอด 7 วัน
* มื้อกลางวันกินผลไม้สดบ้าง สลัดผลไม้บ้างในบางวัน
* กินซุปผักโขม 1-2 ถ้วย ในมื้อเย็นตลอด 7 วัน
สูตรนางแบบไทย
ดูสูตรลดน้ำหนักจาเมืองนอกมาก็มากแล้ว ลองดู สูตรที่นางแบบไทยเค้าใช้กันบ้าง นะคะ เช่นเดียวกันใช้เวลา 7 วันค่ะ
* กินแอปเปิ้ลเขียว 1 ผลเป็นมื้อเช้าตลอดทั้ง 7 วัน ถ้าไม่ชอบก้อาจกินแอปเปิ้ลเขียวให้กินส้มหรือ ฝรั่งหรือ มะละกอหรือสับปะรดแทนได้ แต่ห้ามกินผลไม้หวานจัดเช่น เงาะ ละมุด มังคุด น้อยหน่า องุ่นค่ะ
* มื้อกลางวัน กินเกาเหลาใส่ผักเยอะๆ สลับกับส้มตำและปลาดุกย่างตลอด 7 วัน อาจเปลี่ยนปลาย่างเป็นปลานึ่งตัวเล็กๆ 1 ตัวกินกับผักนึ่งก็ได้ค่ะ
* มื้อเย็น กินซุปผักหรือแกงจืดสลับกับสลัดผักใส่ไข่ต้มหั่นเป็นแว่นๆ สลับกับแฮมต้ม 2 แผ่นทั้ง 7 วันค่ะ
สูตรผอมทันใจ
อันนี้เค้าว่ามาอย่างนี้นะคะ ไม่รู้ว่าจะผอมได้ทันใจจริงๆ รึเปล่า แต่ถ้าหากประเภทหนัก 100 กิโลจะมาผอมเหลือ 40 กิโลภายใน 7 วันก็คงเป็นไปไม่ได้นะคะ แบบนั้นอันตรายเกินไปค่ะ เอาเป็นว่าลดได้ตามสภาพร่างกายของแต่ละคนละนะคะ สูตรนี้ก็ใช้เวลา 7 วันเช่นกันค่ะ
* กินไข่ต้ม 1 ฟอง เป็นอาหารเช้า 4 วันติดกัน อีก 3 วันที่เหลือกิน กล้วย 1 ผล
* มื้อกลางวันกินส้มตำกับตับปิ้ง 1-2 ไม้ บางวันอาจเปลี่ยนเป็นส้มตำกับซุบหน่อไม้แทนได้ค่ะ ถ้าไม่ชอบท้องถิ่นมากก็เปลี่ยนมาทานสลัดผักสดกับทูน่าแทน กินอย่างนี้ 4 วันค่ะ อีก 3 วันที่เเหลือให้กินก๋วยเตี่ยวไก่
* มื้อเย็นกินผักนึ่งกับน้ำพริก ไม่กินข้าวนะคะ บางวันอาจมีปลานึ่งตัวเล็กๆ 1 ตัว กินอย่านี้ตลอด 7 วันถ้าไม่ชอบน้ำพริกให้กินแกงจืดผักเยอะและใส่เห็ดฟางค่ะ
สูตรลดน้ำหนักด่วนแบบจีน
เรามีสูตรลดน้ำหนักแบบดาราฮอลีวูดกันมาแล้ว วันนี้เราก็ขอเสนอ สูตรลดน้ำหนักแบบด่วนของจีน กันบ้างนะคะลองดูนะคะ อาจจะไม่โหดเท่าของฮอลีวูดก็ได้ค่ะ
* กินข้าวต้ม 1 ถ้วยทั้งมื้อเช้าและกลางวันตลอด 7 วัน
* กินแกงจืดฟักใส่กุ้งแห้ง 1 ถ้วย สลับกับกินต้มจับฉ่ายในมื้อเย็นตลอด 7 วัน
สูตรนี้น่าจะทำได้ง่ายนะคะ เพราะได้ทานข้าวกันตั้ง 2 มื้อ แต่ก็ต้องระวังหน่อยนะคะ อย่าทานข้าวเยอะเกินไปค่ะ
- หมายเหตุ มื้อเช้าทานข้าวต้ม ในสูตรไม่ได้บอกว่าทานกับอะไร เข้าใจว่าน่าจะทานข้าวต้มเปล่าๆ แต่ก็น่าจะหากับข้าวเบาๆ มาทานด้วยได้นะคะ เช่น ปลากรอบ ไข่ต้ม ยำกุ้งแห้ง ยำผักดอง เป็นต้นค่ะ เลือกกับที่ไม่มีไขมันนะคะ
ลดหุ่น 7 วันโปรแกรมที่ 1 สูตรยอดนิยม
เรามีโปรแกรมลดน้ำหนักมาให้คุณ เป็นโปรแกรม 7 วันค่ะ โดยที่เรามี 3 โปรแกรมมาให้เลือกค่ะ ลองเลือกดูนะคะว่าโปรแกรมไหนจะเหมาะกับคุณมากที่สุดค่ะ
วันที่ 1
เช้า ไข่ต้ม 1 ฟอง
กลางวัน ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม
เย็น ทูน่า 1 จานเล็ก (1 กระป๋องทูน่าในน้ำเกลือ) บีบมะนาว และใส่พริกไทยให้มากๆ
ของว่าง ผลไม้ โยเกิร์ต
ออกกำลังกาย เดินเร็ว 35 นาที
วันที่ 2
เช้า ไข่ต้ม 1 ฟอง
กลางวัน ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม
เย็น ทูน่า 1 จานเล็ก (1 กระป๋องทูน่าในน้ำเกลือ) บีบมะนาว และใส่พริกไทยให้มากๆ
ของว่าง ถั่วลิสง 2 ช้อนโต๊ะ
ออกกำลังกาย เต้นแอโรบิก 45 นาที
วันที่ 3
เช้า แฮมต้ม 2 แผ่น
กลางวัน ข้าวราดผัดผัก
เย็น น้ำพริกกับผักลวก (ไม่มีข้าว)
ของว่าง เมล็ดทานตะวัน 2-3 ช้อนโต๊ะ
ออกกำลังกาย กายบริหาร 20-30 นาที (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 4
เช้า แฮมต้ม 2 แผ่น
กลางวัน ข้าวราดแกง
เย็น น้ำพริกกับผักสด
ของว่าง ข้าวโพดต้ม 1 ฝัก
ออกกำลังกาย เต้นแอโรบิก 60 นาที
วันที่ 5
เช้า ไข่ต้ม 1 ฟอง
กลางวัน เกาเหลาลูกชิ้น ใส่ผักเยอะๆ
เย็น ซุบผักหรือต้มจับฉ่าย
ของว่าง ผลไม้ โยเกิร์ต
ออกกำลังกาย กระโดดเชือก 20 นาที (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 6
เช้า ไข่ต้ม 1 ฟอง
กลางวัน เกาเหลาลูกชิ้น ใส่ผักเยอะๆ
เย็น ซุบผักหรือต้มจับฉ่าย
ของว่าง ขนมปังโฮลวีตทาแยมผลไม้
ออกกำลังกาย กายบริหาร 20-30 นาที
วันที่ 7
เช้า โจ๊ก 1 ถ้วย
กลางวัน สลัดผักหรือส้มตำหรือซุบหน่อไม้
เย็น ปลานึ่ง ผักลอกจิ้มน้ำพริก
ของว่าง กล้วย 1 ผล
ออกกำลังกาย กายบริหาร 20-30 นาที (ชั่งน้ำหนัก)
ลดหุ่น 7 วันโปรแกรมที่ 2 สูตรเข้มข้น
สูตรนี้เป็นสูตรล้างพิษแบบประยุกต์และยังทำให้น้ำหนักลดลงได้อย่างรวดเร็วด้วยค่ะ ซึ่งสูตรทำซุปผักต่างๆ สามารถดูได้จากสูตรล้างพิษที่เราเคยให้ไว้นะคะ
วันที่ 1
เช้า น้ำแอปเปิ้ลปั่นสดไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ซุปผัก
เย็น ซุปผัก
ถ้าหิว แอปเปิ้ลเขียว 1 ผล
วันที่ 2
เช้า น้ำแอปเปิ้ลปั่นสดไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ผักสด น้ำสลัดใส คลุกน้ำมันมะกอกและบีบมะนาวเท่านั้นค่ะ
เย็น ผักสด น้ำสลัดใส คลุกน้ำมันมะกอกและบีบมะนาวเท่านั้นค่ะ
ถ้าหิว แอปเปิ้ลเขียว 1 ผล (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 3
เช้า น้ำองุ่นแดงบีบหรือคั้น
กลางวัน ผักต้มหรือนึ่ง (แครอท ผักโขม บร็อกโคลี)
เย็น มันฝรั่งต้ม หรือซุปหอมใหญ่ใส่มันฝรั่ง
ถ้าหิว โยเกิร์ต
วันที่ 4
เช้า น้ำองุ่นแดงบีบหรือคั้น
กลางวัน มันฝรั่งต้ม หรือไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น โจ๊กใส่ไข่ 1 ถ้วย
ถ้าหิว กล้วย 1 ผล
วันที่ 5
เช้า น้ำมะละกอปั่น
กลางวัน ซุปผักรวมกับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น
เย็น โจ๊กใส่ไข่ 1 ถ้วย
ถ้าหิว กล้วย 1 ผล (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 6
เช้า น้ำมะละกอปั่น
กลางวัน ซุปผักรวมกับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น
เย็น โจ๊กใส่ไข่ 1 ถ้วย
ถ้าหิว กล้วย 1 ผล (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 7
เช้า น้ำมะละกอปั่น
กลางวัน สลัดผักสดกับแฮมหรือเนื้อไก่ฉีก
เย็น ซุปผักรวม
ถ้าหิว โยเกิร์ต
ลดหุ่น 7 วันโปรแกรมที่ 3 สูตรดั้งเดิม
สูตรนี้เป็นสูตรสำหรับคนที่ต้องการเดินสายกลางค่ะ ไม่ควบคุมอาหารจนโหย แต่เน้นการเผาผลาญพลังงานค่ะ
วันที่ 1
เช้า โจ๊ก 1 ถ้วย
กลางวัน ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม
เย็น ซุปผัก
ออกกำลังกาย เดิน 30 นาที
ของว่างระหว่างมื้อ กินผลไม้หรือกล้วย 1 ผลทุกวัน
วันที่ 2
เช้า โจ๊ก 1 ถ้วย
กลางวัน ข้าวราดแกง 1 จาน
เย็น ผลไม้รวม 1 จาน
ออกกำลังกาย วิ้งจ๊อกกิ้ง 40 นาที
วันที่ 3
เช้า ไข่ต้ม 2 ฟอง
กลางวัน ซุปผักรวม
เย็น ซุปผักรวม
ออกกำลังกาย พัก (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 4
เช้า โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน ข้าวราดแกง 1 จาน
เย็น ปลานึ่งกับน้ำพริกผักลวก
ออกกำลังกาย เต้นแอโรบิก 60 นาที
วันที่ 5
เช้า โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน เกาเหลาลูกชิ้นใส่ผักเยอะๆ 1 ถ้วย
เย็น ข้าวต้มปลา 1 ถ้วย
ออกกำลังกาย ว่ายน้ำ 60 นาที (ชั่งน้ำหนัก)
วันที่ 6
เช้า ไข่ต้ม 2 ฟอง
กลางวัน ซุปผักรวม
เย็น ซุปผักรวม
ออกกำลังกาย พัก
วันที่ 7
เช้า โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม
เย็น สลัดผักสด
ออกกำลังกาย พัก (ชั่งน้ำหนัก)
'No pain No gain'
ไม่เจ็บไม่ได้เรียนรู้
..... มีชายคนหนึ่งนั่งมองผีเสื้อที่กำลังดิ้นรนจะออกจากรังไหม
เจ้าผีเสื้อดิ้นรนไปซักพัก จนกระทั่งใยรังไหมเริ่มขาดเป็นรูเล็กๆ
ชายคนนั้นมองด้วยความสนใจ เจ้าผีเสื้อดูเหมือนจะหยุดไป
ที่จริงผีเสื้อมันพักเพื่อที่จะดิ้นรนต่อไป
แต่ว่าชายคนนั้นคิดไปเองว่าผีเสื้อคงติดใยรังไหม
ไม่สามารถจะออกมาได้ด้วยตนเอง ด้วยความหวังดี
เขาจึงนำกรรไกรขนาดเล็กมาตัดใยรังไหมนั้น ทำให้รูมันขยายใหญ่ขึ้น
เจ้าผีเสื้อเห็นรูขยายใหญ่ขึ้นมันก็คลานต้วมเตี้ยมออกมา
แต่เขาสังเกตว่าตัวมันมีขนาดเล็กกว่าปกติ ปีกเหี่ยวย่น
แถมลำตัวของเจ้าผีเสื้อก็ มีลักษณะบวมผิดปกติ
กลายเป็นว่าในขณะที่ผีเสื้อต้องดิ้นรนออกแรงตะเกียกตะกาย
เพื่อพยายามจะดันตัวมันออกจากรังไหมนั้น เป็นกระบวนการธรรมชาติ
ที่จะกระตุ้นให้ของเหลวชนิดหนึ่งที่อยู่ในลำตัวผีเสื้อ
เคลื่อนที่มาสู่ปีก เพื่อทำให้ปีกแข็งแรงเพียงพอจะบินได้
ด้วยความปรารถนาดีของชายคนนั้น ผีเสื้อตัวนี้ปีกจึงเหี่ยวย่น
ไม่แข็งแรงเพียงพอจะบินได้ แถมยังมีรูปร่างพิกลพิการ
เพราะของเหลวที่ควรจะอยู่ที่ปีก ดันไปติดคั่งค้างอยู่ที่ลำตัว
เจ้าผีเสื้อตัวนี้ออกจากใยมาได้ด้วยความสบาย แต่ต้องพิกลพิการ
และบินไม่ได้ไปชั่วชีวิตของมัน
อุปสรรคและความล้มเหลวในชีวิตของคนก็คล้ายๆกันกับสิ่งที่เจ้าผีเสื้อเผชิญ
ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ ความก้าวหน้าในชีวิต การพัฒนาทักษะ ความกล้าหาญ
ความมุ่งมั่น ล้วนแล้วแต่น่าสงสารและน่าเห็นใจ
แต่จะได้คุณค่ามาก็ด้วยการล้มเหลวอย่างถูกวิธี
เราจะคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตโดยไม่มีความล้มเหลวนั้นเป็นไปไม่ได้
เมื่อเราเผชิญอุปสรรค แล้วเราหลีกเลี่ยงที่จะแก้ไขหรือต่อสู้กับมัน
เท่ากับว่าเรากำลังเสียโอกาสสำคัญในการเรียนรู้บทเรียนที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อ
ความสำเร็จในชีวิตของคน
จาก The Power of Failure โดย
Charles C. Manz แปลเป็นไทยในชื่อ วิกฤติคือโอกาส โดยพสุมดี
กุลมา เรียบเรียงโดย นราทิป นัยนา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)